คอลลาเจน Type 2 vs คอลลาเจนไดเปปไทด์ ตัวไหนเหมาะสำหรับคนปวดข้อ? ในปี 2025
ปัญหาอาการปวดข้อ ข้อฝืด หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่คล่องตัวเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญเมื่ออายุมากขึ้น และเมื่อหันมามองหาตัวช่วย การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจอย่างสูง แต่ความสับสนมักเกิดขึ้นเมื่อต้องเลือกระหว่างคอลลาเจนหลากหลายประเภทในท้องตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง คอลลาเจน Type 2 และ คอลลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งทั้งสองชนิดต่างก็มีชื่อเสียงในเรื่องการดูแลกระดูกและข้อ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกความแตกต่างที่สำคัญในเชิงวิทยาศาสตร์และประโยชน์ที่แท้จริง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าตัวไหนคือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
เจาะลึก "คอลลาเจน Type 2": ทำไมจึงเป็นคำตอบของคนปวดข้อ?
บทบาทและกลไกการทำงานของ คอลลาเจน Type 2
คอลลาเจน Type 2 คือคอลลาเจนชนิดหลักที่พบมากที่สุดในกระดูกอ่อน (Cartilage) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อสำคัญที่ทำหน้าที่คล้ายเบาะรองรับแรงกระแทกในข้อต่อ ทำให้กระดูกไม่เสียดสีกันโดยตรง เมื่อเราอายุมากขึ้น หรือใช้งานข้อต่อหนักเกินไป กระดูกอ่อนจะเริ่มเสื่อมสภาพลง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดและโรคข้อเสื่อม
เมื่อร่างกายได้รับ คอลลาเจน Type 2 ที่เหมาะสม โดยเฉพาะชนิดที่เรียกว่า Undenatured Collagen Type 2 (คอลลาเจน Type 2 ที่ไม่ผ่านการแปลงสภาพ) จะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้หยุดการทำลายกระดูกอ่อนเดิม และยังช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนขึ้นมาใหม่ ทำให้การทำงานของข้อต่อกลับมาดีขึ้น ลดอาการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวได้ว่าคอลลาเจนชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น คอลลาเจนบำรุงกระดูก โดยเฉพาะ
คอลลาเจน Type 2 เหมาะกับใคร?
ด้วยกลไกการทำงานที่ตรงจุด คอลลาเจน Type 2 จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการปวดข้อ ปวดเข่า หรือมีภาวะข้อเสื่อมที่ต้องการฟื้นฟูและซ่อมแซมกระดูกอ่อนโดยตรง นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักกีฬาที่ต้องใช้งานข้อต่อหนักและต้องการป้องกันการบาดเจ็บในระยะยาว รวมถึงผู้สูงอายุที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวไม่คล่องตัว
ทำความเข้าใจ "คอลลาเจนไดเปปไทด์" : สุดยอดการดูดซึมเพื่อสุขภาพองค์รวม
คุณสมบัติเด่นของ คอลลาเจนไดเปปไทด์
คอลลาเจนไดเปปไทด์ คือคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) จนมีขนาดโมเลกุลที่เล็กที่สุด โดยประกอบด้วยกรดอะมิโนเพียง 2 ตัว (Gly-Pro และ Pro-Hyp) ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมเข้าสู่ลำไส้เล็กได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงกว่าคอลลาเจนชนิดอื่นถึงหลายเท่าตัว
ด้วยคุณสมบัติการดูดซึมที่เหนือกว่า จึงทำให้ คอลลาเจนไดเปปไทด์ สามารถกระจายตัวไปช่วยบำรุงได้ทั่วร่างกาย ทั้งผิว ผม เล็บ และยังคงมีส่วนช่วยในการบำรุงข้อต่อได้ในวงกว้างอีกด้วย
ประโยชน์ของ คอลลาเจนไดเปปไทด์ ต่อข้อต่อและกระดูก
แม้ว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์ จะไม่ได้เจาะจงไปที่กระดูกอ่อนโดยตรงเหมือนกับ คอลลาเจน Type 2 แต่ด้วยการดูดซึมที่รวดเร็วและสูงกว่า ทำให้สารอาหารสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ทันทีเพื่อนำไปใช้ในการสร้างและซ่อมแซมคอลลาเจนในส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนด้วยเช่นกัน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ข้อต่อและกระดูกในระยะยาว และยังได้ประโยชน์ด้านความงามควบคู่ไปพร้อมกัน
เปรียบเทียบ : คอลลาเจน Type 2 vs คอลลาเจนไดเปปไทด์ ตัวไหนเหมาะกับคุณ?
เมื่อพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่สำหรับคุณ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจความแตกต่างของทั้งสองชนิด
- คอลลาเจน Type 2 มีหน้าที่หลักในการฟื้นฟูและซ่อมแซมกระดูกอ่อน และมุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาข้อเสื่อมโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่สกัดจากกระดูกอ่อนไก่หรือปลาฉลาม
- คอลลาเจนไดเปปไทด์ มุ่งเน้นการบำรุงสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งผิว ผม เล็บ และข้อต่อ ด้วยขนาดโมเลกุลที่เล็กที่สุดทำให้ร่างกายดูดซึมได้รวดเร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
คำแนะนำ: ควรเลือกแบบไหน?
- เลือก คอลลาเจน Type 2 หากคุณมีปัญหาปวดข้อ ข้อเข่าเสื่อม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกอ่อนโดยเฉพาะ
- เลือก คอลลาเจนไดเปปไทด์ หากคุณต้องการบำรุงสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งผิวพรรณ เส้นผม เล็บ และการเสริมสร้างความแข็งแรงของข้อต่อในระยะยาว
- ทางเลือกที่ดีที่สุด : สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและเห็นผลเร็วที่สุด การทานทั้ง คอลลาเจน Type 2 เพื่อฟื้นฟูข้อต่อแบบเจาะลึก และทาน คอลลาเจนไดเปปไทด์ เพื่อบำรุงสุขภาพผิวและข้อต่อแบบองค์รวม จึงเป็นทางเลือกที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับคอลลาเจนสำหรับข้อต่อ
1. คอลลาเจนช่วยลดอาการปวดข้อได้จริงหรือ?
จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการทานคอลลาเจน โดยเฉพาะ คอลลาเจน Type 2 สามารถช่วยลดอาการปวดข้อและข้ออักเสบได้จริง เนื่องจากช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างกระดูกอ่อนในข้อต่อ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อ ทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น
2. ต้องทานคอลลาเจนนานแค่ไหนถึงจะเห็นผล?
ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย อายุ และความรุนแรงของปัญหา แต่โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใช้มักจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 4-8 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเมื่อทานต่อเนื่องอย่างน้อย 3-6 เดือน การทานอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
3. ควรทานคอลลาเจนร่วมกับอะไรเพื่อผลลัพธ์ที่ดี?
การทานคอลลาเจนร่วมกับวิตามินซีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมและสังเคราะห์คอลลาเจนในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถทานร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยดูแลข้อต่อได้ เช่น แคลเซียม กลูโคซามีน หรือสารสกัดจากขมิ้นชัน
บทสรุป : เลือกคอลลาเจนให้ตรงกับเป้าหมาย
“การเลือก คอลลาเจน Type 2 หรือ คอลลาเจนไดเปปไทด์ ควรขึ้นอยู่กับปัญหาและเป้าหมายของแต่ละบุคคล บทความนี้ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ไหนเหมาะกับคุณที่สุด ที่ Mone Collagen Shop เรามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีคุณภาพสูงสุด การันตีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ และการันตีว่าคุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายของคุณ”
ทำไมต้อง?
โมเน่คอลลาเจน พลัส
หากคุณทานคอลลาเจนมากี่ตัว ก็ยังไม่เห็นผล?…เพราะคุณยังไม่ได้ลอง ‘คอลลาเจนแบบไฮบริด’ ที่ดูแลได้ทั้งผิวพรรณ กระดูกและไขข้อ! คุณไม่จำเป็นต้องแยกทาน อาหารเสริมครั้งละหลายหลายตัวอีกต่อไป
โมเน่ คอลลาเจน พลัส
นวัตกรรม hybrid x2
เน้น บำรุงผิว บำรุงกระดูก
ครบจบในกล่องเดียว !!!
ในโลกของอาหารเสริมยุคใหม่ เราไม่เพียงแค่มองหา ” อะไรที่ดี ” แต่ยังมองหา ” สิ่งที่ใช่ ” สำหรับร่างกายของเราอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพที่เริ่มตระหนักว่า “ผิวสวย” กับ “ข้อเข่าแข็งแรง” ไม่ควรถูกแยกออกจากกัน
นั่นคือเหตุผลที่ โมเน่คอลลาเจน พลัส ได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ เพราะเราเข้าใจดีว่า ปัญหาผิวและข้อ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และการดูแลแยกส่วน ไม่เพียงแต่สิ้นเปลือง แต่ยังอาจได้ผลลัพธ์ไม่ครบถ้วน
ซึ่งหลายคนเคยเผชิญปัญหาเดิม ๆ ซ้ำซาก เช่น ต้องซื้ออาหารเสริมหลายตัว ทั้งคอลลาเจนบำรุงผิว แคลเซียมเสริมกระดูก วิตามินซี และอีกสารพัดสารสกัดที่ต้องแยกชง แยกกิน เช้าเย็น ไม่สะดวก และหลายครั้งก็รู้สึกว่า “ทำไมทานเยอะแต่ไม่เห็นผล?”
จากเสียงของลูกค้าประจำของแบรนด์ โมเน่คอลลาเจน พลัส ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานที่ต้องการผิวสดใสพร้อมข้อเข่าที่รองรับกิจกรรมหนัก วัย 30+ ที่เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวและกระดูก หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่มองหาสารอาหารเพื่อเสริมความแข็งแรงในระยะยาว — ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โมเน่คอลลาเจน พลัสคือคำตอบที่พวกเขาตามหา
Mo'ne Collagen Plus
โมเน่คอลลาเจน พลัส จึงไม่ใช่แค่คอลลาเจนเพื่อความงาม แต่คือการดูแลสุขภาพองค์รวมอย่างแท้จริง
” ทางเลือกใหม่ของคนใส่ใจสุขภาพ ที่อยากดูแลผิวและข้อพร้อมกัน ครบ จบ ในกล่องเดียว ” โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพ ผิวพรรณ ข้อต่อ และต้องการทางเลือกที่ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก และเห็นผลจริง ไม่ว่าจะเป็นสายดูแลผิว สายออกกำลังกาย วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่ที่เริ่มมีปัญหากระดูกและข้อ
โมเน่คอลลาเจน พลัส ถูกพัฒนาขึ้นในแนวคิด “Hybrid Collagen x2” เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างตรงจุด ด้วยการรวม คอลลาเจนไดเปปไทด์ ที่ดูดซึมเร็ว เห็นผลชัดเรื่องผิว พร้อมกับ คอลลาเจนไทพ์ 2 ที่ดูแลข้อเข่าและข้อต่อได้ลึกถึงระดับเซลล์ พ่วงด้วย แคลเซียมจากสาหร่ายแดง, วิตามินซี 100%, โคเอนไซม์คิวเท็น, เซราไมด์ และสารสกัดจากธรรมชาติอีก 12 ชนิด ที่ช่วยบำรุงร่างกายครบทุกมิติ
ที่สำคัญคือ ทุกการชง ไม่มีรสชาติ ไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีน้ำตาล ไม่แต่งสี และไม่ใส่แป้งแม้แต่นิดเดียว จึงสามารถทานได้ทุกวันแม้ในช่วงควบคุมน้ำหนัก หรืออยู่ในภาวะสุขภาพที่ต้องหลีกเลี่ยงน้ำตาล
รีวิวจากลูกค้าจริง
รีวิวลูกค้าจากช่องทางอื่น
Mo'ne collagen plus
โปรโมชั่นพิเศษ!
ส่งฟรีทั่วไทย มีบริการเก็บเงินปลายทาง
📦 สั่งง่าย ได้ของชัวร์ พร้อมดื่ม ดูแลตัวเองได้ทันที!
เกี่ยวกับเรา
จากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง สู่การสร้างสรรค์คอลลาเจนที่ครบถ้วนและเห็นผลได้จริง “โมเน่คอลลาเจน พลัส” เกิดขึ้นจากแนวคิดที่เรียบง่ายแต่มีความหมายลึกซึ้ง คือ “ หากจะดูแลสุขภาพผิวและกระดูกให้ได้ผลจริง ไม่ควรต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์หลายชนิด ”
โมเน่คอลลาเจน พลัส ไม่ได้เกิดจากการตลาด ไม่ได้เกิดจากกระแส “อยากขายของ” แต่เกิดจาก ความเบื่อหน่ายในฐานะ “ผู้บริโภค” ที่เคยลองมาหมดแล้ว แต่!ไม่เคยได้ผลจริง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากมีความตั้งใจที่จะดูแลตนเอง แต่กลับพบอุปสรรคจากการต้องทานอาหารเสริมแยกประเภท ทั้งคอลลาเจนผิว คอลลาเจนข้อ เข่าข้อ และวิตามินเสริมอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก ทั้งในเรื่องของการบริโภค และต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
Mo'ne Collagen Plus
จากประสบการณ์จริงของทีมผู้ก่อตั้ง และการศึกษาภาคสนามกับผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย เราจึงเริ่มต้นการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ “ตอบโจทย์สุขภาพองค์รวม” เราตระหนักดีว่าการดูแลสุขภาพไม่ควรจำกัดอยู่แค่ภายนอก จึงได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Hybrid Collagen x2 ซึ่งผสาน คอลลาเจนไดเปปไทด์ (เพื่อการดูแลผิวพรรณอย่างล้ำลึก) และ คอลลาเจนไทพ์ทู (ที่ช่วยฟื้นฟูและดูแลข้อต่อ–กระดูกอย่างตรงจุด) โดยเสริมด้วยสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ อาทิ วิตามินซีบริสุทธิ์ 100%, แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล, โคเอนไซม์ Q10, เซราไมด์ และสารสกัดจากธรรมชาติรวม 12 ชนิด
โมเน่คอลลาเจน พลัส จึงไม่ใช่เพียงแค่อาหารเสริมที่บำรุงผิวหรือข้อใดข้อหนึ่ง แต่เป็น “โซลูชันแบบองค์รวม” สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพในทุกมิติ — ทั้งผิว เส้นผม เล็บ ข้อต่อ และคุณภาพชีวิตโดยรวม
เราให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัย เท่าเทียมกับ คุณภาพ ผลิตภัณฑ์ทุกล็อตผ่านการควบคุมมาตรฐานการผลิต GHP, HACCP และได้รับการขึ้นทะเบียน อย. อย่างถูกต้อ
เราคัดเลือกวัตถุดิบที่ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น “ดื่มง่าย ไม่คาว” ไม่ใส่น้ำตาล ไม่แต่งรส และไม่มีแป้ง 100% เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ และเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถทานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดภาระกับร่างกาย ทั้งหมดนี้เพราะ “ความตั้งใจที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของเรา”
มาตรฐานการผลิต
มาตรฐาน GHP (Good Hygiene Practices) คือแนวทางปฏิบัติด้านสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพ . GHP ถูกพัฒนาขึ้นจาก GMP (Good Manufacturing Practices) โดยเพิ่มเติมประเด็นด้านสุขลักษณะให้ครอบคลุมและเข้มงวดมากขึ้น
การนำ GHP มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารจะช่วยลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนในอาหาร ป้องกันการเกิดโรคที่มาจากอาหาร และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค. GHP เป็นระบบพื้นฐานที่ช่วยให้ระบบความปลอดภัยอาหารของผู้ประกอบการมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
สำหรับผลิตภัณฑ์ “โมเน่คอลลาเจน พลัส” เราให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตอย่างสูงสุด โดยโรงงานที่ผลิตได้รับการรับรองมาตรฐาน GHP จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งครอบคลุมถึงการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การควบคุมคุณภาพ การจัดเก็บ ไปจนถึงการขนส่ง.
การปฏิบัติตามมาตรฐาน GHP ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่า “โมเน่คอลลาเจน พลัส” เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อการบริโภค
HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point)
- HACCP เป็นระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหารที่มุ่งเน้นการวิเคราะห์อันตรายและการควบคุมจุดวิกฤตในกระบวนการผลิตอาหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุ ป้องกัน และลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดจำหน่ายและการเก็บรักษา
ISO 22000:2018 – ระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร
- ISO 22000 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดข้อกำหนดสำหรับระบบการจัดการความปลอดภัยของอาหาร โดยรวมหลักการของ HACCP และโปรแกรมเงื่อนไขเบื้องต้น (PRP) เป็นส่วนสำคัญของข้อกำหนด มาตรฐานนี้ช่วยให้องค์กรสามารถระบุและจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหารตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน และเสริมสร้างความไว้วางใจของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ความสำคัญของมาตรฐาน HACCP และ ISO 22000 สำหรับ “โมเน่คอลลาเจน พลัส”
- การที่ผลิตภัณฑ์ “โมเน่คอลลาเจน พลัส” ปฏิบัติตามมาตรฐาน HACCP และ ISO 22000 แสดงถึงความมุ่งมั่นในการผลิตสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสุด โดยการควบคุมและตรวจสอบทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต การบรรจุ ไปจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ถึงมือผู้บริโภคมีความปลอดภัยและมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล
Mo'ne collagen plus
โปรโมชั่นพิเศษ!
ส่งฟรีทั่วไทย มีบริการเก็บเงินปลายทาง
📦 สั่งง่าย ได้ของชัวร์ พร้อมดื่ม ดูแลตัวเองได้ทันที!
โมเน่คอลลาเจน พลัส
(Mone Collagen Plus)
“Hybrid Collagen x2” ครบจบในกล่องเดียว อาหารเสริมคอลลาเจนชนิดผงสูตรเข้มข้น ที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งด้าน ผิวพรรณ กระดูก ข้อต่อ เส้นผม เล็บ และระบบฟื้นฟูเซลล์ ในซองเดียว เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ปลอดภัย เห็นผลจริง และไม่ต้องแยกทานอาหารเสริมหลายชนิด
หากคุณกำลังตามหาคอลลาเจนที่ “เห็นผลจริง” และ “ไม่ต้องทานหลายตัว” ถ้าคุณเคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน :
- ทานคอลลาเจนมาแล้วหลายแบรนด์แต่ไม่รู้สึกว่าได้ผล
- ต้องแยกซื้อคอลลาเจนผิว คอลลาเจนข้อ วิตามินซี และอาหารเสริมอื่น
- เบื่อรสคาว กลิ่นแรง ชงยาก ดื่มยาก
- เสียเงินไปมากแต่ไม่ได้สิ่งที่คาดหวังกลับคืนมา
Mo'ne Collagen Plus
ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องรู้จัก “โมเน่คอลลาเจน พลัส” ตัวจริงที่หลายคนกลับมาซื้อซ้ำ เพราะรู้สึกได้ตั้งแต่กล่องแรก
สูตรเดียวจบ ไม่ต้องซื้อ
อาหารเสริมหลายตัว
โมเน่คอลลาเจน พลัส คิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และเวชศาสตร์ชะลอวัย ด้วยสูตร Hybrid Collagen x2 ที่รวมคอลลาเจนเพื่อผิว และคอลลาเจนเพื่อข้อเข่าไว้ในกล่องเดียว
- คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Dipeptide)
โมเลกุลเล็กที่สุด ดูดซึมได้ภายใน 30 นาที เห็นผลเรื่องความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส และริ้วรอยจางลง - คอลลาเจนไทพ์ทู (Type II)
เสริมข้อต่อโดยตรง ช่วยลดเสียงขัดในเข่า ข้อเข่าลั่น ปวดเวลาขยับตัว
จุดแข็งของ โมเน่คอลลาเจน พลัส อยู่ที่การรวม “คอลลาเจน 2 ชนิด” ที่สำคัญที่สุดต่อร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ คอลลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งดูดซึมได้รวดเร็ว เห็นผลไว ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน กระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ กับ คอลลาเจนไทพ์ทู ซึ่งช่วยซ่อมแซมข้อต่อ กระดูกอ่อน และลดอาการปวดข้อหรือข้อเข่าลั่นได้ตรงจุด และยังอัดแน่นด้วยสารสกัดที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน เช่น
- วิตามินซีบริสุทธิ์ 100% ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
- แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลแดง ที่ดูดซึมง่ายกว่าแคลเซียมทั่วไป
- โคเอนไซม์คิวเท็น, เซราไมด์, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เมล่อน เปลือกสน ทับทิม รวมถึงสารอาหารอีกกว่า 12 ชนิด
เราเลือกใช้วัตถุดิบที่ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่แป้ง และไม่คาว เพื่อให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ แม้ในกลุ่มผู้ที่ควบคุมน้ำตาลหรืออยู่ในช่วงลดน้ำหนัก
ผู้ใช้จำนวนมากให้การตอบรับอย่างยอดเยี่ยม โดยหลายคนเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วง 7–14 วันแรก ผิวเริ่มนุ่ม ชุ่มชื้น ริ้วรอยแลดูจางลง ส่วนผู้ที่มีอาการข้อเข่าฝืด เคลื่อนไหวลำบาก หรือปวดข้อในชีวิตประจำวัน ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นเมื่อทานต่อเนื่องภายใน 1 กล่อง
โมเน่คอลลาเจน พลัส ไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แต่เป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณกลับมา “รู้สึกดีกับตัวเองอีกครั้ง” ได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อนับสิบตัว ไม่ต้องสลับทานหลายชนิด และไม่ต้องอดทนกับกลิ่นหรือรสที่ฝืนใจ
ทุกกล่องผลิตภายใต้มาตรฐานโรงงาน GHP, HACCP และ ISO22000 พร้อมเลขสารบบอาหารจาก อย. ที่ตรวจสอบได้จริง เพื่อให้คุณมั่นใจได้เต็มร้อยว่าปลอดภัยต่อร่างกายแม้ทานต่อเนื่องทุกวัน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจในสุขภาพระยะยาว และอยากลงทุนกับสิ่งที่ “เห็นผลจริง” โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกอีกต่อไป
ขอเพียงคุณเปิดใจให้กล่องแรกของ “โมเน่คอลลาเจน พลัส” แล้วคุณจะเข้าใจว่า อาหารเสริมที่ครบ จบ จริง มีอยู่จริงในซองเดียว
Mo'ne Collagen Plus
Why Us?
ทำไมต้องเลือกเรา
“ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายหลายพันบาท เพื่อคอลลาเจนหลายสูตรอีกต่อไป ” โมเน่ คอลลาเจน พลัส รวมทุกสิ่งที่ร่างกายคุณต้องการไว้แล้วในกล่องเดียว:
- คอลลาเจนผิวที่ดูดซึมไวที่สุด (Dipeptide)
- คอลลาเจนข้อเข่าที่ร่างกายดูดซึมได้จริง (Type II)
- แคลเซียมจากธรรมชาติ ไม่ทำให้ท้องผูก
- วิตามินซี 100% และ Q10 ชะลอวัย
- ไม่มีส่วนผสมที่ไม่จำเป็น เช่น แป้ง น้ำตาล หรือสารแต่งกลิ่น
- ทานง่าย เห็นผลจริง กล่องเดียวดูแลได้ทั้งตัว
พร้อมหรือยัง? ที่จะเปลี่ยนการดูแลตัวเองให้ “ง่ายขึ้น แต่ได้ผลมากขึ้น”
โมเน่ คอลลาเจน พลัส – Hybrid Collagen x2 ครบจบในกล่องเดียว
วิธีชง โม’เน่คอลลาเจนพลัส ให้ได้ผลดีที่สุด
เพื่อให้การดูดซึมสารอาหารจากคอลลาเจนเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเกิดผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด ควรชงและทานตามวิธีดังนี้
- ตัก 1 ช้อนตวงผสมกับน้ำ 1 แก้ว (120-150 ml)
สามารถชงกับน้ำเปล่า น้ำเย็น หรือน้ำผลไม้ก็ได้ แต่❗️แนะนำให้ทานกับน้ำอุณหภูมิปกติ (ไม่เย็น ไม่ร้อน) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ - 🚫 ห้ามชงกับเครื่องดื่มร้อนทุกชนิดเด็ดขาด
เพราะความร้อนจะทำลายคุณค่าของสารอาหารในคอลลาเจนจนหมด ทำให้ทานไปก็ไม่เห็นผลเลยค่ะ - คนให้ละลายจนหมด แล้วพักทิ้งไว้สักครู่ รอให้ใสเหมือนน้ำเปล่าค่อยดื่ม
👉 หากไม่คนให้ละลายดี อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเฟ้อได้ เนื่องจากสูตรของเรามีความเข้มข้นสูงมากค่ะ - แนะนำให้ทานตอนท้องว่าง เช่น ตอนเช้า ก่อนอาหารเช้า หรือก่อนนอน เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ดีที่สุดในช่วงนี้
- ดื่มน้ำระหว่างวันให้เพียงพอ
เพื่อช่วยให้คอลลาเจนดูดซึมดีขึ้น และเห็นผลไวขึ้น ทั้งผิวพรรณ กระดูก และข้อต่อค่ะ
ปลอดภัย มั่นใจได้ 100%
ผลิตในโรงงานมาตรฐานระดับสากล
- ผ่านมาตรฐาน GHP / HACCP / ISO22000
- มีเลขสารบบ อย. ถูกต้อง
- ส่วนผสมนำเข้า ปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย
“ถ้าคุณกำลังหาคอลลาเจนที่ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องลองซ้ำหลายแบรนด์ แค่เริ่มจากกล่องนี้ แล้วจะรู้ว่า ‘ของดีจริง’ ไม่ต้องพูดเยอะ”
9 คำถาม? ที่พบบ่อย
กับ โม’เน่ คอลลาเจน พลัส
A: เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่ต้องการบำรุงผิว ผม เล็บ กระดูก และข้อ เช่น วัยทำงาน วัยทอง ผู้สูงอายุ คนออกกำลังกาย คนมีปัญหาปวดข้อ ผิวแห้ง ผมร่วง เล็บเปราะ ฯลฯ
A: โดยทั่วไปเห็นผลภายใน 2–4 สัปดาห์ หากทานต่อเนื่องและดื่มน้ำเพียงพอ เช่น ผิวจะลื่นขึ้น ผมร่วงลดลง ข้อลั่นน้อยลง และรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น
A: ไม่คาวเลยค่ะ! ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่แป้ง – คนที่เคยทานคอลลาเจนแล้วยี้กลิ่น รับรองตัวนี้ทานง่ายแน่นอน
A: แนะนำให้ทาน ตอนท้องว่าง เช่น ตอนเช้าหลังตื่นนอน และก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุดค่ะ
- บำรุงทั่วไป/ดูแลผิว: ทานวันละ 1 ช้อนตวง (ตอนเช้า)
- บำรุงข้อ เข่า ปวดข้อต่อ / ผิวพังมาก: ทานวันละ 2 ช้อนตวง (เช้า + ก่อนนอน)
A: ใช้ คอลลาเจนไดเปปไทด์ และ คอลลาเจนไทพ์ทู ซึ่งเป็นโมเลกุลเล็ก ดูดซึมง่าย ร่างกายนำไปใช้ได้ทันที พร้อมสารสกัด 12 ชนิดที่ทำงานร่วมกันแบบ “ครบสูตร”
A: ได้ค่ะ แต่แนะนำให้เว้นห่างประมาณ 10 นาที – 20 นาทีเพื่อให้การดูดซึมของแต่ละชนิดดีที่สุด
A: เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ แม้ผลิตภัณฑ์จะไม่มีส่วนผสมต้องห้ามก็ตาม
A: แนะนำสำหรับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ค่ะ เพราะระบบร่างกายเริ่มมีการสลายคอลลาเจนและต้องการเสริม
Mo'ne collagen plus
โปรโมชั่นพิเศษ!
ส่งฟรีทั่วไทย มีบริการเก็บเงินปลายทาง
📦 สั่งง่าย ได้ของชัวร์ พร้อมดื่ม ดูแลตัวเองได้ทันที!
รีวิวจากลูกค้าจริง
